วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ลีลาวดี


ดอกลีลาวดี

เดิมทีมีชื่อว่าดอกลั่นทม  ซึ่งคำว่าลั่นทมมีความหมายถึงเศร้าเสียใจคนทั้งหลายจึงไม่นิยมปลูก  และลั่นทมแต่ก่อนนั้นมีสีขาวล้วนชวนมองเพียงสีเดียว  ปัจจุบันมีการพัฒนาปรับปรุงให้ได้พันธุ์ที่แข็งแรง  และมีสีสวยชวนมอง  จึงไม่แปลกใจเลยที่ดอกลีลาวดีจะนิยมนำมาปลูกยังที่ๆเราคุ้นเคยอย่างบ้านอยู่อาศัย  โรงแรม รีสอร์ท  โดยเฉพาะในสวนดอกไม้  เราจะพบลีลาวดีถูกปลูกอยู่ให้เห็นสวยงาม  



การปลูกลีลาวดีมีอยู่หลายวิธี
 1.ใช้กิ่งปักชำในดิน  ในกระถาง  ติดง่าย โตไวให้ดอกทันใจ  แต่ลำต้นไม่แข็งแรง  ป้าเบญเคยไปเดินเล่นในโรงเรียนข้างบ้าน  เห็นคุณลุงตัดแต่งกิ่งทิ้งก็ขอเอามาปักลงในกระถางทั้งกิ่งใหญ่ๆ  เผลอไม่นานออกดอกสวยทันใจ  เล่นเอาคนข้างบ้านที่ซื้อต้นใหญ่จากรถขายต้นไม้ ปุ๋ยดิน ราคาต้นละ  2,000 บาท  อารมณ์เสียเพราะเสียดายเงินที่ซื้อขอแพง
การปักชำก็ไม่มีอะไรมาก  เพียงแค่ริดใบออกตัดปลายกิ่งที่จะจิ้มลงดินให้เอียงสักหน่อย  ปักชำในดินทั่วไหรือดินทรายได้ทั้งหมด  ป้าเบญปักในกระถางจริงเลย  พอรากงอกก็โตต่อที่ในกระถางนั้นเอง ไม่ได้ย้ายไปไหนทั้งสิ้
2.ใช้เมล็ดเพาะปลูก  วิธีนี้ได้สายพันธ์ใหม่ง่ายและฝักเดียวได้ต้นอ่อน 50  -  100  ต้น  โดยต้องเลือกฝักที่แก่จัดเอามาเพาะในกะบะทราย  พอได้ตันอ่อนก็แยกไปลงกระถางได้เลย
3.ใช้การติดตา  ถ้าเลือกใช้วิธีติดตาในการขยายพันธ์ุ    ต้องเลือกกิ่งที่มีตาไม่มากนัก  วิธีนี้ประหยัดค่าใช้จ่าย  กิ่งเดียวขยายได้นับสิบต้น
4.การเปลี่ยนยอด  ถ้าเราคัดพันธ์ุจนได้ดีสมใจแล้ว  วิธีนี้เหมะที่จะรักษาพันธุ์   วิธีนี้จะไม่กลายพันธุ์   โดยการเปลี่ยน ( เสียบ ) ข้างหรือผ่าลิ่ม  และต้องป้องกันไม่ให้น้ำเข้า  ถ้าดูแลไม่ดีแผลจะเน่า

ลีลาวดีมีหลายสี  สวยทุกสี
เจริญเติบโตได้ดี  ไม่ยุ่งยากมากนักในการดูแล  สภาพดินไม่ต้องอุดมสมบูรณ์ก็ให้ดอกได้
แต่ถ้าต้องการให้ออกดอกได้ดีก็นำไปลงกระถาง  ชอบดินที่เป็นกรดเหมือนต้นไม้ในเขตร้อนทั่วๆไป
ลีลาวดีชอบอากาศร้อน  ชอบความชื้น
กระถางของลีลาวดีต้องให้น้ำเยอะได้แต่ต้องให้ระบายได้ดี
ไม่ต้องรดน้ำเช้าเย็น  รอบเดียวก็พอ  หรือเวันวันได้
ถ้าไม่ปลูกในกระถางหมายถึงปลูกลงดินควรยกร่อง  เพื่อระบายน้ำ
ลีลาวดีสีขาวหรือ  สีอ่อนจะชอบแสงแดดกลางวัน  แต่ถ้าเป็นลีลาวดีสีเข้มชอบแดดที่ผ่านร่มเงา  ชอบพรางแสง











เเละเมื่อลีลาวดีสวยขนาดนี้และดูแลไม่ยากอย่างที่คิด มาปลูกลีลาวดีกันเดี๋ยวนี้เลยค่ะ
เครดิตภาพจาก GOOGLEและครูเจี๊ยบแห่งOPPY

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อาหารเจ

หมี่เจ
อาหารยอดนิยมของเทศกาลเจ  การเตรียมวัตถุดิบไม่ยุ่งยาก หลักๆแล้วคือการผ้ดเส้นบะหมี่กับผักสดที่มีเนื้อแข็ง เช่น แครอท ข้าวโพดอ่อน เห็ดหอม เห็ดฟาง  เต้าหู้  ผัดกับซ้อสถั่วเหลือง  ใส่น้ำตาลทรายเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาดให้กลมกล่อม
แกงเขียวหวานเจ

ปกติแล้วอาหารเจจะมีเมนูที่มีรสชาดปานกลาง  ไม่จัดจ้าน แต่แกงเขียวหวานถ้วยนี้สามารถดัดแปลงให้ผู้ที่รับประทานอาหารรสจัดถูกใจและอิ่มอร่อยในเทศกาลกินเจนี้ได้  เพราะยังคงความเป็นแกงเขียวหวานที่มีเครื่องปรุงจากผักที่มีรสชาดอร่อยด้วยตัวเองอย่างเห้ดฟาง  เห็ดนางฟ้า แล้วยังสามารถดัดแปลงใส่ฟัก ใส่ข้าวโพดอ่อน และไม่ลืมใส่เต้าหู้นิ่มๆเพื่อไม่ให้ขาดสารอาหารโปรตีน  เเกงเขียวหวานเจมีวิธีการทำเหมือนแกงปกติแต่ปรับเปลี่ยนเครื่องแกงบางตัวให้เข้าตำราอาหารเจโดยหลีกเลี่ยงไม่ใส่เครื่องปรุงที่เป็นข้อห้ามอย่างรากผักชี  หอม กระเทียม  กะปิ  ส่วนอื่นๆยังคงไว้ให้อร่อย  ได้อิ่มบุญในเทศกาลนี้ได้ตลอด 9-10 วันอย่างที่ตั้งใจ

ข้าวผัดเจ


เวลาที่เราอย่างรับประทานอะไรที่ง่ายและประหยัดเวลาเรามักจะนึกถึงอาหารจานเดียว  ข้าวผัดก็เป็นเมนูที่หลายๆคนเลือกมารับประทานไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆ ข้าวผัดก็อิ่มอร่อยทั้งนั้น 
วันนี้ป้าเบญเสนอข้าวผัดเจเพื่อให้เข้าบรรยากาศ   ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่  เพียงแต่เลือกวัตถุดิบให้ตรงกับที่เราชอบวึ่งก็หมายถึงผักนั่นเอง  การผัดข้าวก็จะใช้เครื่องปรุงเป็นซีอิ้วขาว  เกลือป่น น้ำตาลทรายเล็กน้อย  ไม่ใส่ไข่  ไม่ใส่เนย  สามารถเสริฟกับมะนาว  พริกขี้หนูซอยบางๆ  อิ่มอร่อยได้สุขภาพดี


แกงเห็ดย่านาง

แกงถ้วยนี้เอาใจคนรักสุขภาพล้วนๆ ไม่ใส่กะทิให้มีแคลอรี่  รสชาดดีมาก ใส่น้ำย่านางให้มีสีเขียวน่ารับประทาน  ประโยชน์ของน้ำย่านางมีมากมาย  แกงถ้วยนี้มีเห็ดหลายอย่าง  หลายเห็ดตามที่เราหาได้ ใส่ฟักทอง  ข้าวโพดอ่อน ถั่วฝักยาว  บุบพริกขี้หนูแตก ตระไคร้ใส่รวมไป  ทานกับข้าวสวยร้อนๆ  อร่อยดีจัง


 ผัดไทยเจ


ผัดไทยเจ เมนูที่ร้านไหนๆก็ขายดี  รสชาดอร่อยคงเส้นคงวา  จานนี้ผัดจากเส้นโคราช  ใส่เต้าเจี้ยวดำ  น้ำมะขามเปียก  น้ำตาลปี๊บ  แถมโปรตีนเกษตรจาก ม.เกษตรหอมกรอบอร่อยให้เคี้ยวได้เพลิน คลุกเคล้าไฟแรงๆ ใส่กล่ำปลีลงผัดรวมไปกับเส้ร  ทานกับถั่วงอกดิบ ผักกาดหอม  บีบมะนาว ใส่ถั่วป่น  อร่อยเต็มคำอิ่มบุญอีก  1  มื้อค่ะ ป้าเบญคอนเฟิร์ม  อิอิ



ผัดผักเจ

จริงๆแล้วจานนี้หรือจานผัดไหนๆที่เป็นจานผัดในอาหารเจถูกใจคนรักสุขภาพทั้งสิ้น  เพียงแค่คัดเลือกผักให้สดใหม่  ผัดไฟแรง  เครื่องปรุงพอเหมาะไม่เค็มไปหวานไป  เราก็จะได้อาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย  ดีกับทุกคนที่เลือกรับประทาน   ผักในจานข้างบนคือคึ่นช่ายและเต้าหู้คลุกแป้งทอด มีพริกและเต้าหู้ซอยเล็กน้อย  อ้อ ใส่เต้าเจี้ยวให้หอมด้วยค่ะ

ยำเห็ด3อย่าง

จานนี้เอาใจคนใจบุญ ทานอย่างถูกใจไม่จำเจ  ยำได้ทั้งเห็ดสองอย่าง หรือ หลายๆอย่างตามที่สะดวก

เห็ดสามารถลวกสุก หรือชุบแป้งทอดตามไอเดียที่ทุกคนต้องอยากรับประทาน  การปรุงยำเห็ดลวกจะมีเครื่องปรุงไม่ยุ่งยาก จะมีพริกขี้หนู มะนาว ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล ละลายเครื่องปรุงให้เข้ากันแล้วนำไป  ยำกับเห็ดสุกแล้วเติมผักที่ชอบ  เช่น 
แตงกวา    มะเขือเทศ  กล่ำปลี  ทานได้สบายใจไม่อ้วน  ส่วนถ้านำเห็ดไปชุบแป้งทอดจะใช้น้ำยำอีกสูตรหนึ่งค่ะ จะมีกะทิ น้ำพริกเผา มะพร้าวคั่ว  ถั่วลิสง รสชาดกลมกล่อมลืมอ้วนไปเลย  อิอิ
มารู้จักกับเทศกาลกินเจกันสักหน่อยนะคะ  คัดมาจาก Google






เฟื่องฟ้า


ผกากรอง


ชบาสีสวย



วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บานบุรีสีม่วง ( Purple Bignonia )

บานบุรีสีม่วง  ( Purple Bignonia ) 






บานบุรีสีม่วง  เป็นไม้เถารอเลื้อย  ลำต้นมีขนาดเล็กแข็งและเหนียว  ทุกส่วนของเถาหรือลำต้นจะมียางสีขาว  เถาของบานบุรีสีม่วงเลื้อยไปได้ไม่ไกลอย่างบานบุรีสีเหลือง  บานบุรีม่วงจะเลื้อยไปได้ไกลประมาณ 10 ฟุต  เท่านั้น ใบเป็นไม้ใบเดี่ยว  ออกใบเป็นกลุ่มๆละ 3-4 ใบ  รูปใบรีหรือรูปขอบขนาน  ปลายใบและโคนใบแหลมก้านใบสั้น ขอบใบเรียบเกลี้ยงเนื้อใบอ่อนเมื่อจับดูแล้วจะรู้สึกระคายมือ






บานบุรีสีม่วง  ออกดอกเป็นช่อสั้นๆ ตามซอกใบและปลายกิ่งหรือตามข้อต้น ช่อละ 5-6 ดอก  ดอกมีรูปทรง กรวยปลายดอกบานออกเป็น 5 กลีบ  กลีบภายในดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อัน  ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ



(  ที่มา : เว็บไซต์  maipradabonline . com  )

ป้าเบนจี้

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ดอกถ้วยทอง ( ​​​​​​​Snowy Chalicevine )

ดอกถ้วยทอง  ( Snowy Chalicevine )














ถ้วยทอง  เป็นไม้เถาที่มีขนาดใหญ่ เถาหรือลำต้น  มีสีเขียวเข้ม  และเมื่อเถาแก่ก็จะเป็นสีน้ำตาล  เถาเกลี้ยง ไม่มีขน เป็นไม้ใบเดี่ยว  จะแตกใบบริเวณปลายกิ่ง ใบถี่ ใบเป็นรูปรีหรือรูปแกมขอบขนาน  ปลายใบแหลมโคนใบสอบเว้าหาก้านใบ ใบมีสีเขียวเข้ม  ก้านใบกลมสีเขียว  ค่อนข้างยาวและแข็ง

ถ้วยทอง เป็นไม้ดอกเดี่ยว  ออกดอกตามซอกใบและบริเวณปลายกิ่งลักษณะของดอกเป็นรูปทรงกรวยที่มีขนาดใหญ่  บริเวณปากกรวยจะคอดและปลายดอกจะแยกออกเป็น   5  กลีบ หรือ 5 แฉก  ดอกสีเหลืองและภายในดอกจะเป็นแถบสีม่วงแดงเป็นเส้นๆตามยาว  ประมาณ  10 เส้น มีกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอดที่โคนดอก ดอกถ้วยทองจะมีกลิ่นหอมจัดในตอนเย็น


( ที่มา  :  เว็บไซต์  maipradabonline . com  )

ดอกพยับหมอก

ดอกพยับหมอก ( Cape Leadwort )

พยับหมอก ไม้ดอกไร้กลิ่นที่มีใบสีเขียวเข้ม  ตัดกับดอกสีฟ้าครามสว่างตา  ใบเดี่ยว  เรียงสลับ  ใบรูปไข่กลับ กว้าง  3-4 เซนติเมตร  ยาว 5-7 เซนติเมตร  ปลายใบมน โคนใบเรียวแหลม ผิวใบด้านล่างมีขนอ่อน  สากระคายมือ  

ดอกพยับหมอก  ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นที่ปลายกิ่ง ดอกสีฟ้าคราม กลางกลีบดอกคล้ายกับเป็นร่อง โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก มีรยางค์เล็กๆยื่นออกมา และมีต่อมน้ำเหนียวๆเกาะติดมือ ปลายแยกเป็น 5 แฉก 




ดอกหงส์เหิน ( Blobba Wiitii )







หงส์เหิน เป็นไม้พื้นเมืองที่มีแหล่งกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดขึ้นในป่าเขตร้อนชื้น  ใต้ร่มเงา
ไม้ใหญ่ ขึ้นอยู่ตามชายป่าเมืองไทย จังหวัดทีพบมากได้แก่

  1. ภาคเหนือ  จังหวัดตาก
  2. ภาคกลาง จังหวัดสระบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว
  3. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  จังหวัดบุรีรัมย์ สกลนคร  หนองบัวลำพู
  4. ภาคใต้นครศรีธรรมราช  
 หงส์เหินเริ่มออกดอกตั้งแต่เดือน พฤษภาคม - กันยายน  โดยจะออกดอกมาในช่วงเข้าพรรษา  ชาวบ้านจะตัดดอกหงส์เหินมาใช้ในประเพณีตักบาตรดอกไม้  ในวันเข้าพรรษาที่วัดพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
  • ดอกหงส์เหินเป็นพืชที่ขึ้นในทุกภาค  จึงมีชื่อที่เรียกต่างกันไปตามพื้นที่ เช่น                                                       ดอกเข้าพรรษา ( สระบุรี )
  • ดอกกล้วยจ๊ะก่า  ( ตาก )
  • ดอกเครือคำ  ( เชียงใหม่ )
  • ว่านดอกเหลือง ( เลย )
  • ปุดนกยูง ( ภาคใต้ )
( ที่มา : กลุ่มส่งเสรมการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ  สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร )